เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังมองหาธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและจะสร้างผลกำไรให้กับตัวเองได้อย่างง่ายได้นั้น คงจะต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะจะต้องกำเงินจำนวนมากมายไปลงทุน เพื่อมาซื้อสินค้ามาสต๊อกเอาไว้ หรือจะต้องลงทุนในการสร้างร้านค้าที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีความเสี่ยงทั้งสิ้น และจะดีกว่ามั้ย ถ้าหากได้จับธุรกิจที่คุณไม่ต้องลงทุนมากมายแถมยังไม่ต้องสต๊อกสินค้าอีกด้วย ซึ่งธุรกิจที่ว่านี้ก็คือ DROPSHIP
DROPSHIP คืออะไร ?
DROPSHIP นั้นคือ บริการที่ผู้บริการนั้นจะมีการสต๊อกสินค้าเอาไว้แล้วและส่งต่อสินค้าเหล่านั้นมาให้คุณเป็นผู้ดำเนินการขายผ่านทางหน้าร้านหรือพื้นที่โฆษณาบนเว็ปไซต์, บล็อก, หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ ของคุณ ซึ่งการส่งต่อมาให้ขายนั้น คุณไม่จำเป็นเลยที่จะต้องลงทุนเพื่อสั่งสินค้านั้นๆ เข้ามาสต๊อกเอาไว้ เพราะทางผู้จำหน่ายโดยตรง จะมีรูปภาพสินค้า หรือตัวอย่างและรายละเอียดของสินค้ามาให้คุณแล้ว หน้าที่ของคุณก็เพียงแค่นำสิ่งที่ได้มาโปรโมทต่อในพื้นที่ของตัวคุณและ รายได้ของคุณก็จะมาจากการบวกกำไรเพิ่มเติมเข้าไปจากราคาสินค้าที่รับมาจริงๆ เท่านั้นเอง เช่นกางเกงตัวละ 200 บาท แต่เมื่อคุณนำมาขายในหน้าร้านของตัวเอง ก็สามารถที่จะบวกราคาเพิ่มเป็นตัวละ 220 บาท ซึ่งส่วนต่าง 20 บาทก็คือกำไรที่คุณจะได้นั่นเอง และทั้งหมดนี้ก็คือกระบวนการสร้างรายได้แบบธุรกิจ DROPSHIP ที่คุณทำหน้าที่เสมือนเป็น “นายหน้า” เท่านั้นเอง
กระบวนการของการทำ DROPSHIP
สำหรับขั้นตอนของการทำ DROPSHIP นั้นก็คือ
-
- ให้คุณลองหาธุรกิจ DROPSHIP ที่ต้องการโดยการลองเสิร์ชคำว่า DROPSHIP + สินค้าที่ต้องการจะขาย หรือหากยังไม่รู้จะขายสินค้าอะไรก็ให้ลองพิมแค่คำว่า DROPSHIP แล้วลองดูผลลัพธ์ดูว่ามีรายละเอียดสินค้าใดบ้าง
- หลังจากที่คุณเรียกรูปแบบของสินค้าที่ต้องการขายได้แล้ว ให้ลองอ่านรายละเอียดหรือเงื่อนไขของการเป็นตัวแทน DROPSHIP จากร้านค้าดู ทั้งนี้ก็มีรูปแบบของการขายที่แตกต่างกัน ซึ่งบางเจ้าอาจจะมีการเก็บค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปีอีกด้วย
- เมื่อคุณได้เป็นตัวแทนขายแล้ว คราวนี้ก็ถึงขั้นตอนของการโพสเนื้อหาของสินค้านั้นๆ โดยใช้รูปภาพและรายละเอียดจากร้านค้าที่ได้ส่งมาให้ เพื่อประชาสัมพันธ์บน Facebook หรือ Instagram ที่คุณมีเพื่อสร้างโอกาสในการมียอดซื้อสินค้าจากคุณนั่นเอง
- ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้ยอดขายแล้ว ทาง DROPSHIP ก็จะจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าของคุณตามจำนวนยอดสั่งโดยจะจัดส่งในนามของคุณเอง ไม่ใช่ในนามของ DROPSHIP เพื่อให้ลูกค้าของคุณจะได้ไม่เกิดความสับสนว่าสั่งซื้อสินค้ากับใครกันแน่
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวของ DROPSHIP ธุรกิจที่น่าสนใจและสร้างกำไรก้อนโตให้กับคุณได้ง่ายๆ โดยไมต้องสต๊อกสินค้าให้ยุ่งยากเลยทีเดียว